วันอังคารที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2556

โจรปล้นธนาคาร เพราะอยากออกทีวี?

เรื่องโดย นายมาร์ค

เหตุการณ์ของการกระทำความผิดที่เกิดขึ้น
 
ภาพโดยเจ้าของเรื่อง


          วันที่ 5 เมษายน 2556 ผมและพวกพี่แก๊งยากูซ่าพัทยา ได้นัดกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่พัทยา ตอนที่เจอกันเวลาก็ประมาณ 11.20 น. ผมและพวกพี่ก็ได้สั่งอาหารมารับประทานกันแล้วเวลาก็ผ่านไปสักประมาณ 10 นาที ผมและพวกพี่ที่นั่งทานข้าวด้วยกัน ก็ได้คุยกับผมว่า
       “น้องรักของพี่ พี่มีเรื่องให้ช่วยอยู่พอจะช่วยพี่ได้ไหม” 

         ผมก็เลยพูดว่า  “เรื่องอะไรเหรอคับพี่”
       “ถ้าพี่บอกน้องรักไปน้องต้องเก็บเป็นความลับนะ ห้ามเปิดปากบอกใครเลยเด็ดขาดโอเคป่ะ”
       ผมก็เลยพูดออกไปว่า “ได้คับ ผมสัญญา” แล้วผมก็ถามว่า “ตกลงเรื่องอะไรเหรอคับพี่ ที่พี่จะให้ผมช่วย”  “พี่พูดไปห้ามตกใจละ”  “ ครับพี่”


 
       “พี่ว่าจะให้น้องรักไปปล้นแบงค์หรือที่เรียกกันว่าธนาคารนั้นเอง”
        ผมได้ฟังแล้วถึงกับอึ้งไปพักนึง แล้วผมก็พูดว่า “พี่ครับ ปล้นแบงค์เลยเหรอคับ”
        พี่ก็พูดว่า “จุจุ เบาๆ หน่อย” “ครับๆ เบาๆ” พี่ก็พูดว่า “ไปปล้นแบงค์พี่มีค่าจ้างให้นะ”
        ผมก็เลยพูดต่อไปว่า “แล้วจะให้ไปปล้นที่ไหนอ่ะคับ”
        พี่ก็พูดต่อไปว่า “น้องรู้จักจังหวัดสระแก้วไหมละ”
        ผมก็พูดว่า "รู้จักคับ หรือว่าพี่จะให้ผมไปปล้นที่จังหวัดสระแก้วใช่ไหมคับ”
        พี่ก็บอกว่า “ใช่แล้วน้องรัก”
       ผมก็พูดขึ้นต่อว่า “ทำไมถึงไปไกลจัง” พี่เค้าก็พูดว่า “ก็ที่นั้นอ่ะเพื่อนพี่บอกว่าธนาคารกรุงไทย ใจกลางเมืองสระแก้วอ่ะ ตอนกลางคืนไม่ค่อยมีคนเลย”
        ผมก็ทักขึ้นว่า “แล้วพี่จะให้ผมไปทำอะไรเหรอคับ” “น้องก็รู้ดีว่า เราเดินสายลักทรัพย์และฆ่ามานานแล้ว แต่ยังไม่เคยโดนจับสักที พี่ก็เลยคิดว่าจะทำให้แก๊งเราดังสักหน่อย พี่ก็เลยอยากให้น้องรักช่วย ทำยังไงก็ได้ทำให้แก๊งเราดังหน่อย เกี่ยวกับธนาคารแล้วออกทีวีด้วย”
       ผมถึงกับอึ้งไปครู่นึง แล้วผมก็พูดต่อ “ถ้าผมทำได้ผมจะได้อะไรคับ” พี่เค้าก็พูดขึ้นต่อมาว่า “ได้อยู่แล้วของตอบแทนอ่ะ” “ผมจะรู้ได้ไงว่าผมจะได้”
       พี่ก็พูดต่อว่า “งั้นเอางี้ไหม พี่จ่ายเงินสดเลย สามแสนบาทเลย เป็นมัดจำไว้ โอเคยังละทีนี้”
       ผมก็เลยพูดต่อว่า “โอเคครับพี่ แล้วผมจะได้ตังค์วันไหนละครับ”
       พี่ก็พูดว่า “วันนี้เลยหลังคุยธุระเสร็จนี้แหละ”
      “แล้วพี่จะให้ผมทำงานวันไหนครับ” พี่เค้าก็บอกว่า “วันที่ 8 เมษายน 2556 ตอนเช้าก็ขับรถไปที่สระแก้วเลย แล้วน้องก็หาโอกาสเหมาะๆ ทำตามที่เราคุยกันไว้เลย โอเคไหมน้องรัก” พี่พูดจบ ผมก็พูดว่า “โอเคครับ”
       พอคุยเสร็จเราก็เรียกพนักงานเช็คบิลค่าอาหาร พอเราจ่ายเสร็จ ก็ออกนอกร้านไปที่ธนาคาร เวลาประมาณ 13.15 น. เราก็มาถึงธนาคาร พี่เขาก็ลงจากรถไปกดตังค์มาให้ผมตามที่คุยกันเอาไว้ พอผมได้รับตังค์ครบเสร็จ พี่ก็พูดว่า “โชคดีนะน้องรัก”   ผมก็บอกว่า “ครับพี่” จากนั้นเราก็ขึ้นรถไปทางใครทางมัน
       พอผมกลับถึงบ้าน พอลงรถเสร็จ ผมเดินเข้าไปในบ้าน แฟนผมก็ถามว่าไปไหนมา ผมก็บอกว่าไปหาเพื่อนมาครับที่รัก แฟนผมก็ไม่เอ่ะใจอะไรต่างคนต่างทำหน้าที่ ผมก็บอกกับแฟนก่อนจะไปทำหน้าที่ต่างๆ ตัวเองเค้าต้องไปดูงานที่สระแก้วนะคุณครูบอกมา วันที่ 2 เมษายน แล้วแฟนผมก็บอกว่าปิดเทอมแล้วยังต้องไปอีกเหรอ ผมก็เลยบอกว่าไปดูแทนคุณครู เค้าเป็นตัวแทนห้องอ่ะนะ แฟนผมก็ไม่เอ่ะใจ ก็บอกว่าถ้าไป อย่าไปมีคนใหม่ละ ผมก็เลยบอกว่าครับที่รัก 

 


ภาพโดยเจ้าของเรื่อง

      เวลาก็ผ่านไปเร็วมากจนถึงวันที่ 8 เมษายน ผมก็เตรียมตัวละ ผมก็ออกเดินทาง แฟนผมก็ยกมือบ๊ายบายให้ผม พอออกเดินทางมาถึงสระแก้วตามที่ว่ากันไว้ ตอนนี้เวลาก็โดยประมาณ 16.50 น. ผมก็ไปนั่งทานข้าวอยู่ธนาคารที่ว่าไว้ พอทานข้าวเสร็จเวลาก็ประมาณ 17.20 น. ผมก็รอเวลากว่าจะมืด ผมก็เลยไปนั่งอยู่ที่ร้านเกม ผมก็นั่งเล่นเกมโดยไม่จำกัดเวลา พอผมนั่งลงที่โต๊ะที่ผมเลือกไว้ แล้วผมก็เล่นอินเตอร์เน็ตไปเรื่อย ตามภาษาคนรอเวลา แล้วผมก็นึกคิดถึงแฟนขึ้น ผมก็เลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์โทรหาแฟน พอแฟนผมรับ เรา 2 คนก็คุยตามภาษาคนคิดถึงหรือเรียกอีกอย่างว่า คนรักกัน เราสองคนก็คุยกันนานพอสมควรจนเวลาผ่านไปสัก 2-3 ชั่วโมง ที่เราสองคนโทรคุยกัน รู้ไหมครับว่า ผมหมดค่าโทรไปเท่าไหร่ เกือบ 200 บาทแน่ะ ผมลืมกดสมัครโทรฟรี ก็เลยหมดเยอะหน่อยอะนะครับ พอผมวางโทรศัพท์ก่อนจะวางหู ผมก็บอกว่าหลับฝันดีนะ จร้า แฟนผมก็พูดขึ้นมาว่าแล้วตัวเองไปนอนที่ไหนอะ ผมก็เลยพูดขึ้นต่อมาว่า ห้องเช่าลายวันอะนะ แฟนผมก็บอกว่าจร้า แค่นี้นะที่รัก ผมก็บอกว่าครับ พอวางหูเสร็จผมก็เลยเล่นเกมต่อไป ผมก็ดูเวลาตอนนี้ เวลาก็สัก 21.30 น. ผมก็คิดว่ายังคงไม่ได้เวลาหรอกมั้ง ก็เลยเล่นเกมต่อไป จนเวลาผ่านไป ดูนาฬิกาอีกทีก็ 5 ทุ่มกว่า ผมก็คิดว่าเวลาตอนนี้คงจะเหมาะแล้วละ ผมก็เลยเดินไปจ่ายตังค่าเกม พอจ่ายเสร็จผมก็เดินออกจากร้านเกมไป ผมก็ขี่รถไปที่ธนาคารกรุงไทย ของจังหวัดสระแก้ว

 
     พอผมมาถึงผมก็ยืนคิดอยู่ครู่นึงแล้ว เดินไปดูธนาคารว่าจะทำยังไงให้ตำรวจมาแล้วออกทีวี พอดีอยู่ข้างหน้าผมมีก้อนอิฐตัวหนอนอยู่ผมก็เลยคิดอะไรออก ก็เลยตัดสินใจทุบกระจกตู้บูทของธนาคารเข้าไป เป็นกระจกที่หนามาก ผมใช้เวลาทุบพอสมควร พอกระจกแตกผมก็เข้าไปในธนาคาร พอผมเข้ามาในตู้บูทของธนาคารเสร็จ ผมก็เดินเข้าไป ผมก็เลยไปเจอตู้เซฟอยู่ตู้นึง ผมก็เลยไปจับดู แล้วก็มีเสียงสัญญาณกันขโมยดังขึ้น ผมคิดว่ามันคงจะดังอยู่แค่ในตู้บูทเท่านั้น แต่ไม่ใช่เลยครับ มันไปถึงสถานีตำรวจสระแก้วเลย ผมกำลังจะวิ่งหนีเลยครับตำรวจก็มาถึงพอดี ผมก็เจอตังอยู่ลิ้นชักอยู่ถุงนึง ก็เลยเก็บใส่กระเป่ากางเกง แล้วผมก็ยืนอยู่เฉยๆ ตำรวจก็เปิดประตูเข้ามาในตู้บูทของธนาคาร ผมก็เลยยื่นมือมาให้ตำรวจจับ ผมก็ถูกจับไปขังที่ สภ. สระแก้ว ผมก็ดีใจมากครับ ที่ทำให้ออกทีวีได้ แล้วผมก็คิดได้แล้วว่าการติดอยู่ในคุกนี้ทรมานแค่ไหน ผมก็อยากให้ทุกคนอย่าเอานิสัยหรือพฤติกรรมของผมที่ดีอย่าเอาเป็นแบบอย่างนะครับ 

 คดีนี้ถูกจับวันที่ 8 เมษายน 2556

 คติ ทำให้เพื่อนเป็นผลดี แต่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนเกินเยียวยา


สัมภาษณ์เด็กและเยาวชน

ความคิด/ความรู้สึกของเยาวชนก่อนที่จะทำตามเหตุการณ์ข้างต้น

"ผมรู้ตื่นเต้น คึกคะนองมากเลยครับกับเหตุการณ์นี้ ผมไม่ยักรู้มาก่อนว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้"

ความรู้สึกขณะนี้ที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว

"รู้สึกกระวนกระวาย อยากจะทำอย่างเดียวเลย คุ้มสติไม่อยู่ "

ความคิด/ความรู้สึกหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวไปแล้ว

"รู้สึกผิดมากและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะความโลภมาก คึกคะนองตน จึงทำอะไรวู่วามเกินไปรู้ตัวอีกทีก็สายไปแล้ว"

แนวทางการป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ หรือพฤติกรรมดังกล่าวข้างต้น

"ต้องรู้จักการคุมอารมณ์ คุมสติให้อยู่ นึกถึงคนที่เรารัก เชื่อฟังพ่อแม่เหนือคนใกล้ชิตที่หวังดี"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น