วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

3 โจ๋ตีนายจ้างดับอนาถกลางที่นอน

เรื่องโดย นายแมวป่าฯ

เหตุการณ์ของการกระทำความผิดที่เกิดขึ้น 

         เรื่องมีอยู่ว่า วันที่ 10 มีนาคม 2556 วันนั้นผมได้นัดกับแฟนของผมว่าจะไปเที่ยวกัน แล้วผมก็ไปเที่ยวกัน 2 คนกับแฟน ซึ่งวันนั้นเป็นวันหยุดงานของผม (ผมมีอาชีพเป็นช่าง ซ่อมรถยนต์อยู่ร้านอยู่ใกล้ๆบ้านของผม) และผมจะไม่ค่อยชอบหน้านายจ้างของผมซักเท่าไหร่ เพราะเขาเป็นคนชอบด่า ชอบบ่นไม่มีเหตุผล เพราะเหตุนี้แหละคับจึงทำให้ผมไม่ชอบเขา


 
        เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2556 ซึ่งผมได้ไปเที่ยวกับแฟนผม ที่เขาพระบาทพลวง ผมกลับไปที่บ้านของผม แม่ของผมก็บอกว่า นายจ้างของผมโทรมา ถามว่าทำไมไม่ไปทำงาน ผมก็บอกไปว่าวันนี้วันหยุดของผมไม่ใช่เหรอ และเขาก็บอกผมว่า ถ้าเกิดทำตัวแบบนี้ก็อยู่ด้วยกันไม่ได้ ผมก็ไม่ได้พูดอะไร แล้วผมก็ปรึกษาแม่ของผม ว่าผมจะทำงานต่อกับเขาได้ไหม แม่ของผมก็บอกว่าถ้าทำไม่ได้หรือไม่ไหว ก็ลาออก แล้วหางานทำใหม่เถอะลูก ผมก็บอกกับแม่ของผมว่าแล้วหนูจะพยายาม แล้วแม่ผมบอกกับผมว่า ถ้าเป็นอย่างนี้ ก็ไปเก็บเสื้อผ้ามา พอแม่ของผมพูดจบ ผมก็บอกกับแม่ผมว่า งั้นผมจะหางานใหม่ทำ

ภาพโดยเยาวชนเจ้าของเรื่อง

          จากนั้น ผมก็บอกลาแม่ว่า ผมกับแฟนของผมกลับแล้วนะแม่ ผมก็ขี่มอเตอร์ไซค์ออกไป ผมขี่มาเรื่อยๆ ผมก็มองไปเห็นป้ายหน้าร้านอู่ซ่อมรถแห่งหนึ่ง เขียนว่ารับสมัคช่างฝีมือดี ผมก็ได้จอดรถลงไปถามเขาว่าผมขอสมัครงานหน่อยครับ เขาก็บอกผมทำอะไรเป็นบ้างละ ผมก็บอกเขาว่าเป็นนิดหน่อยคับ แล้วเขาก็บอกว่าตอนนี้ช่างใหญ่ไม่อยู่หรอก อีกประมาณ 1 อาทิตย์ กว่าจะกลับ เดี่ยวพี่ขอเบอร์น้องไว้แล้วกัน ยังไงพี่จะติดต่อไปแล้วกันนะ ผมก็จดเบอร์ให้กับพี่คนที่ขอเบอร์ผม แล้วผมก็บอกกับพี่คนนั้นว่า ผมไปก่อนนะครับ


       ผมก็ขี่รถออกไปผมก็ขี่รถไปเรื่อยๆจนถึงอู่ที่ผมเคยอาศัยอยู่กับเขา หรือคนที่โทรตามผมให้ไปทำงาน พอผมถึง ผมก็เห็นเขานั่งอยู่หน้าบ้านของเขา ซึ่งผมก็ได้เดินเข้าไปกะว่าจะเข้าไปเก็บเสื้อผ้าของผม แล้วค่อยเดินออกมาบอกกับเขา แต่พอผมเดินผ่านหน้าของเขา เขาก็ได้พูดคำเดิมของเขาออกมา “ถ้าเป็นแบบนี้เราคงอยู่ด้วยกันไม่ได้นะ” ผมก็เลยบอกกับเขาไปว่า “ไม่อยู่ก็ไม่อยู่ดิ ผมขอลาออก” ตอนนั้นก็ประมาณสัก 1 ทุ่มกว่าๆ ผมก็ได้เดินเข้าไปเก็บเสื้อผ้าของผม ซึ่งนายจ้างของผมได้เข้านอนเพราะเขาทานยานอนหลับไป ผมก็เก็บเสื้อผ้าเสร็จแล้ว ผมก็ได้โทรหาแม่ของผม ให้มารับหนูที แม่ก็บอกผมว่าไม่ว่าง แล้วผมก็นึกได้ว่าผมมีเบอร์ของเพื่อนอยู่ ซึ่งเพื่อนผมชื่อ ต้อม หลังจากผมวางสายแม่ของผมแล้ว ผมก็ได้โทรหาไอ้ต้อม ผมบอกมันให้มารับหน่อยเพื่อน ไอ้ต้อมก็ถามผมว่าทำไม ผมก็เลยบอกว่าโดนไล่ออกจากงานแล้ว มันก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ผมก็เลยถามมันว่ามีปืนไหม เขาก็ตอบว่ามี แล้วลูกปืนละ มันก็บอกว่ามี งั้นมึงเอามาด้วยนะ เพื่อนผมก็ถามว่าทำไมว่ะ “กูจะยิงมันว่ะ” เพื่อนผมก็บอกว่าเออ แค่นี้แหละเดี่ยวกูไปกับต้นนะ ผมก็บอกว่ามึงมากันแค่ 2 คนนะ เพื่อนผมก็บอกว่าเออเพื่อน


       แล้วเพื่อนเขาก็มา พอมาถึงผมก็ถามมันว่ากินเหล้าไหม แล้วเพื่อนก็บอกว่ากิน แล้วผมก็เดินไปซื้อเหล้าร้านค้าที่อยู่ใกล้ๆ พอผมซื้อมาผมก็เปิดเหล้า เซ่นเจ้าที่ เหล้าผมก็กระดก 1 ที แล้วผมก็ส่งต่อให้ไอ้ต้อม แล้วให้ไอ้ต้อมกระดกอีก 1 ที แล้วส่งให้เพื่อนอีกคน คนละ1 ที พอวนเสร็จผมก็ควักบุหรี่ออกมาดูด 1 ตัว ผมก็ถามมันว่าถ้ากูฆ่าคน มึงจะเอากับกูไหม แล้วไอ้ต้อมและไอ้ต้นก็ตอบว่ากูเอา แล้วผมก็ถามไอ้ต้อมว่าไหนปืนละ แล้วไอ้ต้นก็ควักปืนออกมาให้ผม แล้วผมก็หยิบปืนดูว่าเป็นปืนอะไร พอผมจับดูมันก็คือ ขนาด .22 แม็กซีน มึงตามกูมานะ พอพวกมึง 2 คน จับมันออกมานะ

        ขณะนั้นประมาณ 4 ทุ่งครึ่งแล้ว ผมก็ได้ค่อยๆเปิดประตูเข้าไปในบ้านพบว่า ห้องข้างๆยังไม่นอน เพราะว่าห้องข้างๆเป็นร้านหมูย่างเกาหลี ผมก็ได้ปรึกษาไอ้ต้นและไอ้ต้อมว่า เอายังไงดี ถ้ายิงมันก็เสียงดังแล้วห้องข้างๆก็จะออกมาดูนะโว้ย ไอ้ต้อมและไอ้ต้นก็ได้บอกให้ผมไปช่วยกันเข็นรถมอเตอร์ไซค์ที่จะขโมยมันไปก่อน เข็นรถออกไปไว้หลังบ้าน ผมก็ได้ปรึกษากับไอ้ต้อมและไอ้ต้น อีกครั้งหนึ่งว่าเอายังไง ไอ้ต้อมก็พูดว่าถ้าไม่ฆ่ามันตำรวจก็รู้ดิว่าใครเอารถมันไป ฉะนั้นเราต้องฆ่ามัน
 
       .....ตอนนั้นรู้สึกเหงื่อไหล มึนนิดๆหน่อย แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป หลังจากที่ไอ้ต้อมพูดเสร็จ ไอ้ต้อมก็บอกว่าให้หาเหล็กคนละอัน ซึ่งผมก็บอกว่าข้างในอู่มีเยอะแยะเลย พอผมพูดเสร็จผมก็เดินเข้าไปในอู่ พอเรา 3 คนเข้ามาหาเหล็ก เรา 3 คนก็ได้เหล็กคนละอันแล้ว หลังจากนั้นผมก็ค่อยๆเปิดประตูเข้าไปในห้อง ซึ่งไอ้ต้อมได้เข้าไปก่อน ซึ่งมันบอกว่ามันจะลงมือเอง ส่วนผมกับไอ้ต้นนั้น รออยู่หน้าประตู ส่วนไอ้ต้อมอยู่ในห้องของนายจ้างผม เพียงคนเดียว
 
 


        สักพักผมก็ได้ยินเสียงอะไรไม่รู้ ตุบตุบ 2 ที ผมก็ได้เข้าไปดูพบว่า ไอ้ต้อมได้ตีนายจ้างของผมเข้าที่ลูกกระเดือก ตอนนั้นนายจ้างได้ชัก 1 นาที แล้วก็นิ่งไป ผมกับไอ้ต้นก็ได้วิ่งออกจากห้อง ส่วนไอ้ต้อมมันวิ่งออกมาทีหลัง ตอนนั้นทำให้ผมรู้สึกกลัวมาก แล้วผมก็ได้ใช้รถมอเตอร์ไซค์ที่ขโมยมา เพื่อหลบหนี ซึ่งผมได้หลบหนีไปอยู่ที่บ้านแม่ ประมาณ 2 วัน แม่ของผมก็บอกให้ผมมามอบตัวกับตำรวจ ผมก็ได้มาที่โรงพัก เพื่อมามอบตัว หลังจากนั้นผมก็ถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

                                                                                       ........คติ ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
 

ความคิด/ความรู้สึก
ก่อนที่จะทำตามเหตุการณ์ข้างต้น
"รู้สึกโกรธมากๆ และรู้สึกไม่ค่อยชอบหน้านายจ้าง"


ขณะที่เกิดขึ้นต่อเหตุการณ์
"รู้สึกเหงื่อออก สั่นนิดๆ กลัวหน่อยๆ"

หลังจากเหตุการณ์แล้ว
"รู้สึกว่าผมไม่น่าทำลงไป รู้สึกสงสารเขา และครอบครัวของเขา"

แนวทางการป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์หรือพฤติกรรมดังกล่าวข้างต้น

"ผมควรจะเป็นคนใจเย็น และคิดหน้าคิดหลังให้ดีก่อนที่จะทำอะไรไป"
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น